ตม.6 รวบชาวเมียนมาลักลอบค้าประเวณี พร้อมแม่เล้าคนไทยคาโรงแรม และจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนาม
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.63 เวลา 13.30 น. ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช. สตม., พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รอง ผบก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีคนต่างชาติกระทำความผิดรายสำคัญ และคดีที่น่าสนใจ ดังนี้
ตม.จ.ระนอง จับกุมชาวเมียนมาลักลอบค้าประเวณี พร้อมแม่เล้าคนไทยคาโรงแรม : ด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการกำชับให้มีการเก็บข้อมูลที่สำคัญทุกอย่าง(data entry) ที่เกี่ยวกับบุคคล กลุ่ม หรือองค์กร ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด บก.ตม.6 โดย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ตร. โดยเคร่งครัด และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการปฎิบัติงานด้านตรวจคนเข้าเมืองนั้น ตม.จ.ระนอง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ. สมชาย จิตสงบผกก.ตม.จ.ระนอง, พ.ต.ท.พิษณุ เบี้ยแก้ว รอง ผกก.ตม.จ.ระนอง นำโดย พ.ต.ต.พิศุทธิ์ สุวรรณภาษิต สว.ตม.จ.ระนอง, ร.ต.อ.ศิรสิทธิ์ ทันศรี และ ร.ต.อ.สิทธิชัย เทียนทอง รอง สว.ตม.จ.ระนอง ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าบริเวณโรงแรมพีพีระนอง เลขที่ 27/183 หมู่ 5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง มีหญิงเมียนมาทำงานเป็นหมอนวดและค้าประเวณี เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมได้ให้สายลับเข้าล่อซื้อโดยใช้ธนบัตรไทยที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
ต่อมาสายลับได้แจ้งว่าได้ซื้อบริการนวดและบริการทางเพศจากหญิงชาวเมียนมา จำนวน 1 คนเป็นเงินจำนวน 1,500 บาท ให้หญิงชาวเมียนมาเพื่อเป็นการซื้อบริการทางเพศกับหญิงดังกล่าว และหญิงดังกล่าวได้พาสายลับไปที่ห้องเลขที่ 103 เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและจับกุม
- น.ส.คำปุ่น อายุ 52 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่าง ด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน”
- MS.SANDAR อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ในความผิดฐาน “เป็นผู้เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนน หรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชนและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้”
- MS.EI อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ในความผิดฐาน “เป็นผู้เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนน หรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”
- MS.MAY อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ในความผิดฐาน “เป็นผู้เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนน หรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”
สอบถาม MS.SANDAR รับว่าตนเองได้รับเงิน จำนวน 1,500 บาท จากสายลับเพื่อขายบริการให้จริง โดยตนเองจะนำเงิน จำนวน 500 บาท ไปให้กับน.ส.คำปุ่นฯ โดยแบ่งเป็นเงินค่าห้อง 300 บาท ค่าน้ำดื่ม 20 บาท และค่าหมอนวด 100 บาท (ซึ่งน.ส.คำปุ่นฯ จะคืนเงินให้กับตนเองหลังจากทำงานครบ 10 วัน) และรับว่าตนเองได้ทำงานเป็นหมอนวด ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำโดยเด็ดขาด (ปรากฏตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องกำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ข้อ 20) โดยมี น.ส.คำปุ่น อายุ 52 ปี สัญชาติไทย เป็นนายจ้างจริง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ถูกจับกุมทั้ง 4 คน ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยพนักงานสอบสวนได้จัดทำบันทึกคัดแยกผู้เสียหายจากค้ามนุษย์แล้ว มีความเห็นว่าผู้ถูกจับไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีค้ามนุษย์แต่อย่างใด
ตม.จ.สงขลา ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6 จับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวชาวเวียดนาม : เจ้าหน้าที่ สภ.หาดใหญ่,ตม.จ.สงขลา และ กก.สส.บก.ตม.6 ได้รับแจ้งเหตุคนต่างด้าวเสียชีวิตภายในห้องพักแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพบนางฮวง อายุ 29 ปี สัญชาติเวียดนาม นอนเสียชีวิตภายในห้องพัก สภาพศพไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย สาเหตุการเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว จากการตรวจสอบพบว่า นางฮวง หลบหนีเข้าเมืองมาเนื่องจากไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ในที่เกิดเหตุพบนายณรงค์ อายุ 40 ปี สัญชาติไทย รับว่าร่วมกับชายสัญชาติเวียดนาม เป็นผู้นำพาคนต่างด้าวที่เสียชีวิตมาและเปิดห้องพักให้อาศัยก่อนจะนำพาไปส่งนายหน้าที่รอรับอีกทอดหนึ่งเพื่อเดินทางหลบหนีออกทางช่องทางธรรมชาติเพื่อกลับประเทศเวียดนาม
ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ให้การช่วยเหลือคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.สงขลา และ กก.สส.บก.ตม.6 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่าน ตม.ทอ.หาดใหญ่ ตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามจำนวน 16 คน ที่บริเวณหน้าท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ในที่เกิดเหตุพบ นายห่อม อายุ 30 ปี สัญชาติเวียดนาม รับว่าร่วมกับเพื่อนสัญชาติเดียวกันและกลุ่มคนไทยให้การช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 15 คน เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยเก็บค่าใช้จ่ายคนละ ประมาณ 38,000 บาท ซึ่งเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าทั้ง 15 คนหลบหนีเข้าเมืองและในจำนวนนี้มีคนต่างด้าว 2 คน ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมีนายหน้า ที่ประเทศมาเลเซียจัดหาให้ในราคาประมาณ 15,000 บาท
จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่านายณรงค์ฯ และนายห่อมฯ มีความเชื่อมโยงกัน โดยเคยร่วมกันนำพาคนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามหลบหนีเข้าเมืองมาแล้ว 3 ครั้งตั้งแต่ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาก่อนถูกจับกุม เพื่อเดินทางออกนอกประเทศทางช่องทางธรรมชาติโดยมีจุดมุ่งหมายคือลักลอบกลับเข้าประเทศเวียดนามโดยไม่ผ่านการกักตัวโรคโควิด–19 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงประสานหน่วยงานสาธารณสุขมาสอบสวนโรคเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีผู้ใดติดเชื้อโควิด–19
จึงแจ้งข้อกล่าวหา แก่คนต่างด้าวสัญชาติเวียดนามทั้ง 15 คนว่ากระทำความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต,ใช้หนังสือเดินทางผู้อื่นในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือผู้อื่น พร้อมทั้งแจ้งข้อหา นายห่อม ว่ากระทำความผิดฐาน ให้การช่วยเหลือคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหอยโข่ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีนโยบายในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรม ในทุกรูปแบบฐานความผิดอย่างจริงจัง และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของสถานที่พักอาศัยหรือประชาชนทั่วไป หากพบบุคคลต่างชาติที่มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในลักษณะต่างๆ หรือคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โทร.1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน