จันทบุรี – ตามที่ได้มีผู้โพสในเฟสบุ๊ค เรื่องที่มีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติบริเวณฝายชะลอน้ำ หลังตลาดจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม นั้น นายสุธีทอง แย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง
วันนี้ (12 ธ.ค.63 ) นายสุธีทอง แย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชน และ ผู้โพสเจ้าของเพจที่เป็นห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนในสถานการณ์โควิด -19 อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสถานที่และความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย มีความเห็นร่วมกันว่า ข้อมูลที่นำไปเผยแพร่เป็นภาพเก่า ที่เกิดมาก่อนหน้านี้นานแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นภาพที่เกิดขึ้นในช่วงของการประกาศปิดด่านฯช่วงแรก ที่ชาวบ้านยังปรับตัวไม่ทันและหน่วยงานที่รับผิดชอบประสานงานชายแดนของไทยด้านจังหวัดจันทบุรีและพระตะบองของประเทศกัมพูชา ได้มีข้อตกลงอนุโลมชั่วคราว ตามหลักมนุษยธรรม โดยให้ชาวบ้านจากกัมพูชาในพื้นที่ อำเภอกอมเรียง จ.พระตะบอง ติดกับตะเข็บชายแดนจันทบุรี สามารถข้ามมาซื้อสินค้าไทยไปบริโภค บรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหารในฝั่งกัมพูชา
สำหรับถุงกระสอบที่เห็นในภาพไม่ใช่ถุงใส่เสื้อผ้าแต่เป็นถุงใส่ขนมปังขนาดใหญ่ อาหารพื้นเมืองของชาวกัมพูชาที่นำมาฝากเพื่อนแรงงานกัมพูชาที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทย ขณะที่เรื่องใบไม้แห้งเป็นเรื่องธรรมชาติมี่ใบไม้บางชนิดเมื่อแห้งเฉาแล้วก็ยังไม่ร่วงหล่นทันที ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร และถ้าดูด้วยใจเป็นธรรมจะพบว่ามีหลายอย่างที่แตกต่างไป ไม่ว่าจะเป็นตะไคร่น้ำตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องมีระยะเวลานานกว่า 3 วัน สีของน้ำก็มีลักษณะสีที่แตกต่างกัน กระสอบทรายในปัจจุบันก็เก่ากว่าภาพที่ปรากฏ หัวเสาปูนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเมื่อช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด ไม่ได้ย่อหย่อนหรือเสริมเพิ่มแต่งเติมหลังจากเป็นข่าวในกระแสโลกโซเชียลแต่อย่างใด ขณะที่ นาวาเอกอดิเรก บัวเย็น หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิดโยธินที่ 2 กล่าวถึง รั้วลวดหนาวว่ามีทั้งที่เป็นอันเดิมที่ทำมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และบางจุดถูกทำลายจากผู้ที่ลักลอบเข้ามาจึงได้เสริมเพิ่มขึ้นไปในทุกระยะเมื่อพบจุดที่อันตรายบกพร่องก็เสริมลวดหนาวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันกับจุดนี้ที่เสริมรั้วลวดหนามจึงดูใหม่แต่ก็มีของเก่ารวมอยู่ด้วย
การลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ครั้งนี้ เป็นการเข้าพื้นที่โดยมิได้มีการบอกกล่าวเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานแต่อย่างใด โดยนอกจากการเยี่ยมชม รับทราบข้อเท็จจริงที่พื้นที่เกิดเหตุแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยังถือโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมจุดผ่อนปรนทางการค้า และเส้นทางถนนเลียบชายแดน พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนอย่างเข้มแข็ง และได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าทั้ง 2 ประเทศยังมีการพูดคุย และรอวันที่รัฐบาลจะอนุญาตให้เปิดชายแดนเพื่อบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งเรื่องปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรอีกด้วย
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก