วันนี้ (17 ธันวาคม 2563) เวลา 18.08 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ประจำปีการศึกษา 2559 - 2560 ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ซึ่งสภามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ด้วยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการทหาร ด้านการบิน และพระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ ในการช่วยเหลือประชาชน ในด้านการทหาร ทรงผ่านหลักสูตรการทหารในทุก ๆ ด้าน ในด้านการบิน ปัจจุบันทรงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนักบินผู้ช่วย ทำการบินกับเครื่องบินพระราชพาหนะ พระองค์ทรงให้ความสำคัญและทรงสนพระราชหฤทัยในการช่วยเหลือประชาชน ชุมชนและท้องถิ่น ทรงมุ่งมั่นในการสืบสานรักษาต่อยอดพระราชกรณียกิจในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสู่ชุมชนและสังคมโดยทรงติดตามดูแลและส่งเสริมการสร้างและพัฒนาองค์ความรู้ที่เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อาทิ ทรงรับผิดชอบดูแลพระราชกรณียกิจ กองศิลปาชีพ สถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงเน้นการพัฒนาบทบาทหน้าที่ของสตรีไทย ในการสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้แก่ประเทศชาติสภามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จึงขอพระราชทานพระราชวโรกาสทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟฟ้า พระที่นั่ง ไปยังลานอเนกประสงค์หน้ากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานี เพื่อทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พันตรี ประสาร เหมือนพงษ์ ผู้อำนวยการกองแพทย์หลวง กราบบังคมทูลรายงานการตรวจรักษา และเบิกนายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นำคนไข้ที่ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ อาทิ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคพันธุกรรมเบตาบอลิค มีอาการชักเกร็ง โรคผิดปกติทางพันธุกรรม พิการด้านการเคลื่อนไหวและสติปัญญาบกพร่องแต่กำเนิด จำนวน 6 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กับพระราชทานกล่องยาพระราชทานและเงินสำหรับเป็นค่าเดินทางไปทำการรักษา และมีพระราชปฏิสันถาร ทรงสอบถามอาการป่วยและแนวทางการรักษาด้วยความห่วงใย ยังความปลื้มปีติแก่คนไข้และครอบครัวและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่มาออกหน่วยแพทย์พระราชทาน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานของที่ระลึก โดยตั้งแต่วันที่ 15 - 17 ธันวาคม 2563 มีประชาชนมาตรวจรักษา จำนวนรวม 1,415 คน ตรวจโรคทั่วไป 852 คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคตาแห้ง โรคต้อเนื้อ โรคกระเพาะอักเสบ กับทรงรับคนไข้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวนรวม 19 คน โดยมีหน่วยแพทย์พระราชทาน จำนวนรวม 539 คน ประกอบด้วยแพทย์ จำนวน 126 คน, ทันตแพทย์ จำนวน 18 คน, และบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 335 คน มาให้บริการตรวจรักษา
ซึ่งในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก หน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพโรคทั่วไป ตรวจโรคเฉพาะทาง ทันตกรรม ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีพระราชทานให้ อาทิ ตรวจหัวใจด้วยเครื่องตรวจหัวใจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง ตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และตรวจภาพจอประสาทตา รวมทั้งหน่วยแพทย์มูลนิธิกาญจนบารมี ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม ออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาแก่ราษฎร ผู้ปกครอง และญาติของบัณฑิตให้ได้เข้าถึงการรักษา
และรถตรวจเชื้อชีวนิรภัย ตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ ออกหน่วยให้บริการตรวจเก็บตัวอย่างเป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองที่เข้าพื้นที่ได้สะดวกและรวดเร็วกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ปรุงอาหารสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานแก่บัณฑิต ผู้ปกครอง ญาติบัณฑิต และประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ อย่างทั่วถึง ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา