อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๒๑.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ – ๒๕๖๐ ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานปริญญาศิลปาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน ซึ่งสภามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
เวลา ๒๑.๓๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน ๗ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จบริเวณลานจอดเครื่องบินพระที่นั่ง ซึ่งมาจากอำเภอต่าง ๆ อาทิ อำเภอชัยบุรี อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพนม อำเภอพุนพิน อำเภอท่าฉาง อำเภอไชยา และอำเภอเมือง ต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง และเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ แสดงออกถึงความจงรักภักดี ยังความปลื้มปีติแก่ราษฎรที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ เสร็จแล้ว ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา 00.07 น.
ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๑๙.๔๘ น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟฟ้าพระที่นั่ง ไปยังลานอเนกประสงค์หน้ากองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เพื่อทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระราช ทานพระราชวโรกาสให้ พันตรี ประสาร เหมือนพงษ์ ผู้อำนวยการกองแพทย์หลวง กราบบังคมทูลรายงานการตรวจรักษา และเบิกนายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นำคนไข้ที่ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ อาทิ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
โรคพันธุกรรมเบตาบอลิค มีอาการชักเกร็ง โรคผิดปกติทางพันธุกรรม พิการด้านการเคลื่อนไหวและสติปัญญาบกพร่องแต่กำเนิด จำนวน ๖ คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กับพระราชทานกล่องยาพระราชทานและเงินสำหรับเป็นค่าเดินทางไปทำการรักษา และมีพระราชปฏิสันถาร ทรงสอบถามอาการป่วยและแนวทางการรักษาด้วยความห่วงใย ยังความปลื้มปีติแก่คนไข้และครอบครัวและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่มาออกหน่วยแพทย์พระราชทาน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานของที่ระลึก โดยตั้งแต่วันที่ ๑๕ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ มีประชาชนมาตรวจรักษา จำนวนรวม ๑,๔๑๕ คน ตรวจโรคทั่วไป ๘๕๒ คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออักเสบ โรคตาแห้ง โรคต้อเนื้อ โรคกระเพาะอักเสบ กับทรงรับคนไข้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวนรวม ๑๙ คน โดยมีหน่วยแพทย์พระราชทาน จำนวนรวม ๕๓๙ คน ประกอบด้วยแพทย์ จำนวน ๑๒๖ คน ทันตแพทย์ จำนวน ๑๘ คน และบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน ๓๓๕ คน
มาให้บริการตรวจรักษา
ซึ่งในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคใต้ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก หน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพโรคทั่วไป ตรวจโรคเฉพาะทาง ทันตกรรม ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีพระราชทานให้ อาทิ ตรวจหัวใจด้วยเครื่องตรวจหัวใจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง ตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และตรวจภาพจอประสาทตา รวมทั้งหน่วยแพทย์มูลนิธิกาญจนบารมี ตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม ออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาแก่ราษฎร ผู้ปกครอง และญาติของบัณฑิตให้ได้เข้าถึงการรักษา และรถตรวจเชื้อชีวนิรภัย ตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ ออกหน่วยให้บริการตรวจเก็บตัวอย่างเป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองที่เข้าพื้นที่ได้สะดวกและรวดเร็ว
กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ปรุงอาหารสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานแก่บัณฑิต ผู้ปกครอง ญาติบัณฑิต และประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ อย่างทั่วถึง ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณา
จากนั้น ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ของชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้ อาทิ ผ้าไหมยกดอกของกลุ่มทอผ้าบ้านพุมเรียง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผ้าบาติก จังหวัดยะลา ผ้าบาติกย้อมสีธรรมชาติจากยางกล้วย จังหวัดสงขลา ผ้าบาติก จังหวัดสตูล ผลิตภัณฑ์จากย่านลิเพาของกลุ่มจักสานย่านลิเพาโพธิ์เสด็จ จังหวัดนครศรีธรรมราช ผ้าบาติกย้อมครามสร้างลวดลายจากดินขาว จังหวัดระนอง ผ้าฝ้ายทอจากเส้นใยกล้วยของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านล่องมุด จังหวัดสงขลา สมควรแก่เวลา จึงประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ