เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 2 มกราคม 64 ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุเรือโดยสารสองตอนจมกลางแม่น้ำเจ้าพระยา มีผู้โดยสารและคนขับเรือรวม 6 คน หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานกู้ภัยร่วมกตัญญูเข้าช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุบริเวณใกล้กับท่าเรือโรงเรียนท่าอิฐศึกษา (ลาตีฟุ๊ตดีน) ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี พบผู้โดยสารที่มีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์นำเรือออกไปช่วยขึ้นฝั่งมาได้ 5 ราย ทราบชื่อนายโต้ง สุดจิตร อายุ 44 ปี, นายอรุณ ศิลปี อายุ 47 ปี, นายวัลลภ อาจคงหาย อายุ 40 ปี, และนางพลอยไพลิน สุดจิตร อายุ 42 ปี ทั้งหมดเป็นผู้พิการไม่สามารถพูดได้ และนายขวัญชัย พิณโทแก้ว อายุ 43 ปี คนขับเรือโดยสารสองตอน นอกจากนี้ยังทราบว่ามีผู้จมสูญหายอีก 1 รายทราบชื่อว่านายขวด อายุ 42 ปี เป็นผู้พิการเช่นกัน
จากการสอบถามนางพะยอม พุ่มพวง อายุ 44 ปี คนที่พายเรือเข้าไปช่วยเรือทั้ง 5 คนขึ้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา เล่าว่า ขณะที่ตนยืนอยู่บนบ้านได้ยินเสียงคนตะโกนขอความช่วยเหลือดังมาจากกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตนจึงได้นำเรือไฟเบอร์ท้องแบนพายออกไปช่วย เมื่อไปถึงพบกลุ่มคนทั้งหมดเกาะเรือที่จมลอยอยู่น้ำ ตนจึงให้ทุกคนเกาะเรือแล้วรีบพายเข้าฝั่ง แต่เมื่อสอบถามพบว่ามีอีกคนได้จมหายไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ ทราบว่าทั้งหมดเป็นผู้พิการไม่สามารถพูดสื่อสารได้ ต้องใช้วิธีเขียนข้อความ จากการสอบถามทราบว่า กลุ่มคนเหล่านี้รวม 5 คนได้ว่าจ้างเรือโดยสารสองตอนมาไหว้พระที่วัดรอบเกาะเกร็ด หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วก็นั่งเรือโดรสารเพื่อกลับที่พักเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเรือได้เกิดไปชนตอหรือกระแทกกับขอนไม้ที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาจนท้องเรือทะลุน้ำค่อยๆไหลเข้ามาในเรือก่อนที่จะจมลง คนขับเรือได้ว่ายน้ำขึ้นฝั่ง ส่วนผู้โดยสารไม่มีใครว่ายน้ำเป็นจึงตะเกียกตะกายเกาะเรือ จนมีคนมาช่วยไว้ได้ และจมสูญหายไป1 คน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอเจ้าหน้าที่ประดานำจากมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมอุปกรณ์มางมหาผู้ที่สูญหาย หลังใช้เวลานานกว่า 1 ชม.ยังไม่พบร่างของคนที่จมหาย จึงได้ถอนกำลังเนื่องจากน้ำบริเวณดังกล่าวไหลแรงมาก อาจทำให้พักพาร่างผู้สูญหายลอยไปไกลจากจุดที่เกิดเหตุ
ด้านนายขวัญชัย พิณโทแก้ว อายุ 43 ปี คนขับเรือโดยสารสองตอน ให้การว่าได้รับว่าจ้างจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวจำนวน 5 คนและสุนัขอีก 2 ตัว ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวพูดสื่อสารไม่ได้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดให้ดูรูปวัดแล้วว่าจ้างให้ไปส่งตามวัดที่เปิดให้ดู จนก็ตกลงขับพาไปตามวัดที่เขาให้ดู โดยขับเรือวนไปรอบเกาะ ก่อนมาถึงจุดเกิดเหตุตนได้ถามว่าใช่วัดนี้ไหม ทั้งหมดโบกมือว่าไม่ใช่ ตนจึงขับเรือต่อมา หลังจากนั้นก็มีน้ำทะลักเข้ามาในเรือก่อนที่จะจมลงไป ซึ่งตนไม่ทราบว่าเรือไปชนตอหรือกระแทกอะไรที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนเรือจะจมตนได้ส่งเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านละแวกนั้น ส่วนตนไม่สามารถช่วยใครได้จึงว่ายน้ำเข้าฝั่ง กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วย้อนกลับมาดูไม่ได้หลบหนีไปไหน
สาโรจน์ สว่างศรี นนทบุรี