ข่าวใหม่อัพเดท » นครพนมเพิ่มมาตรการเข้ม คณะกรรมการโรคติดต่อฯ สั่งปิด 15 สถานที่เสี่ยงการแพร่ไวรัสมรณะ หนุ่มฝ่าฝืนคำสั่งกักตัวกระอัก เจอปรับหนัก 1 แสน

นครพนมเพิ่มมาตรการเข้ม คณะกรรมการโรคติดต่อฯ สั่งปิด 15 สถานที่เสี่ยงการแพร่ไวรัสมรณะ หนุ่มฝ่าฝืนคำสั่งกักตัวกระอัก เจอปรับหนัก 1 แสน

5 มกราคม 2021
0

นครพนมเพิ่มมาตรการเข้ม คณะกรรมการโรคติดต่อฯ สั่งปิด 15 สถานที่เสี่ยงการแพร่ไวรัสมรณะ หนุ่มฝ่าฝืนคำสั่งกักตัวกระอัก เจอปรับหนัก 1 แสน

วันที่ 4 มกราคม 2564 ณ ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธาน แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covic-19) และการเฝ้าระวัง เพื่อรับสถานการณ์โรคโควิดระลอกใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยมีในที่ประชุมมีมติให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ของโรคติดต่ออันตรายเป็นการชั่วคราว จำนวน 15 กิจการทั่วทั้งจังหวัดนครพนม ได้แก่

  1. โรงภาพยนตร์
  2. ร้านคาราโอเกะ
  3. อาบ อบ นวด หรือ โรงน้ำชา
  4. ร้านเกม ตู้เกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญ
  5. ร้านสักหรือเจาะผิวหนัง
  6. สถาบันกวดวิชาทุกประเภท ห้ามจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรมหรือกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่ดำเนินการสื่อสารแบบทางไกลหรือด้วยวิธีออนไลน์
  7. สนามไก่ชน รวมถึงสนามซ้อมไก่ กัดปลา สนามมวย ฯลฯ และสถานที่สำหรับจัดให้มีการพนันอย่างอื่นทุกชนิด
  8. โต๊ะสนุกเกอร์
  9. ร้านหรือศูนย์พระเครื่อง แผงพระ ทั้งกลางแจ้งและในร่ม
  10. สระว่ายน้ำ รวมทั้งในโรงแรมและสถานศึกษา
  11. สระน้ำเพื่อการกีฬา หรือในบึง
  12. ร้านสปา นวดแผนไทย แผนโบราณฯลฯ
  13. เครื่องเล่นในลักษณะที่เป็นสวนสนุก เครื่องเล่นเป่าลม บ้านลม บ้านบอล หรือเครื่องเล่นหยอดเหรียญ
  14. โรงเรียน สถาบันศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชน ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก โดยมีกำหนดระหว่างวันที่ 5-18 มกราคม นี้
  15. สถานบริการ เช่น ผับ บาร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังห้ามมีการชุมนุมหรือมั่วสุม เช่น การแสดงดนตรี รถแห่ รำวง โดยห้ามสังสรรค์รื่นเริงที่เป็นการรวมผู้คนจำนวนมาก ยกเว้น งานแต่งงาน งานศพ งานประเพณีที่มีความจำเป็น จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 100 คน และต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่นั้นๆ
เนื่องด้วยนครพนมเป็นจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ จึงถูกกำหนดให้อยู่ในมาตรการควบคุมสูงสุด(สีเหลือง) เพื่อเป็นการระงับยับยั้งการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ และต้องเป็นจังหวัดที่ปลอดเชื้อตลอดไป จึงต้องมีมาตรการในการควบคุมไม่ให้จังหวัดสีแดงนำผู้ติดเชื้อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสีเหลือง

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม จึงกำหนดให้มีมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น โดยสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง หมั่นตรวจตราสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยว ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำหนด ทางจังหวัดจะพิจารณาให้สถานบริการนั้นๆหยุดบริการทันที

พร้อมกันนี้ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเข้มข้นในการค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุมทำผิดกฎหมาย กำชับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เฝ้าระวังการลักลอบเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนมของคนที่เดินทางมาจากการระบาดของโรค โดยห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว และให้โรงพยาบาลกำหนดมาตรการงดเยี่ยม

สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีนายธีรภัทร(สงวนนามสกุล) ราษฎรบ้านคำเตย หมู่ 4 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หลังได้รายงานกับ อสม.ฯแล้ว ก็มีหนังสือให้กักตัวเองอยู่ในบ้านพักเป็นเวลา 14 วัน แต่ปรากฏว่านายธีรภัทรฝ่าฝืนเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยแอบหลบออกไปนอกบริเวณกักตัว จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี ซึ่ง พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่าคดีดังกล่าว ผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกไป โดยถูกนำตัวไปสังเกตอาการอยู่ศูนย์เรียนรู้ยางพารานครพนม บริเวณอ่างเก็บน้ำ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ที่จัดตั้งเป็นหอผู้ป่วยใช้สำหรับกักตัวบุคคลที่มีความเสี่ยง สำหรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าไปในสถานที่ชุมชน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งกรณีนี้เจ้าหน้าที่จะพิจารณาตามหลักความเป็นจริง ว่า เจตนาไม่ใส่หรือมีความจำเป็นอะไร “โดยมาตรการที่คณะกรรม การโรคติดต่อกำหนดออกมาไม่ใช่เพื่อผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองต่างหาก” ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าว


เทพพนม รายงาน

error: Content is protected !!