ตม.จ.หนองคาย เข้มสกัดกั้นโควิด-19 รวบเครือข่ายแก๊งรถตู้ขนแรงงานชาวเวียดนาม จากพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เตรียมลักลอบข้ามพรมแดน
วันที่ 7 ม.ค. 64 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ, พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทพรต ผกก.ตม.จ.หนองคาย ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการลักลอบขนคนเวียดนาม สกัดกั้นโควิด-19 รวบเครือข่ายแก๊งรถตู้ขนแรงงานชาวเวียดนาม จากพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เตรียมลักลอบข้ามพรมแดน
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จ.หนองคาย ได้นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ BMW ออกลาดตระเวนเพื่อสืบสวนและจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวมาจากพื้นที่เสี่ยง จนกระทั่งพบรถยนต์ตู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ซึ่งได้ชะลอเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจก่อนถึงจุดตรวจด่านหนองสองห้อง ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนอง คาย จ.หนองคาย เมื่อพบว่ามีการตั้งด่านจึงพยายามจะกลับรถหลบหนีการตรวจสอบ จนท. ชุดจับกุม จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจสอบ พบนายทองใบ อายุ 51 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ตู้สีขาว ทะเบียน กทม. และ นายทา เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ตู้สีขาว ทะเบียน กทม. โดยมีแรงงานชาวเวียดนามโดยสารมาทั้งสิ้น 12 คน ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้กระทำความผิดฐานหลบหนีเข้าเมือง 2 คน และอยู่เกินกำหนดจำนวน 6 คน จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ ตม. จ.หนองคาย
จากการสอบปากคำ นายทองใบ และนายทา รับว่าได้รับการติดต่อจากเอเย่นชาวเวียด นาม ว่าจ้างให้นำรถยนต์ตู้ไปรับแรงงานชาวเวียดนามในเขต กทม. และ นนทบุรี เพื่อพามาส่งที่ชายแดนจังหวัดหนองคาย เพื่อลักลอบเดินทางข้ามไปยัง สปป.ลาว โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินคนละ 8,000 บาท แต่จะได้รับค่าจ้างเมื่อสามารถส่งแรงงานชาวเวียดนามเสร็จสิ้นแล้ว แต่มาถูกตรวจพบก่อนในที่สุด จนท.จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้รอดพ้นจากการถูกจับกุมและ เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” พร้อมควบคุมตัวส่ง พงส.สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา ตม.จ.หนองคาย บก.ตม.4 ได้สืบสวนขยายผลตัวการในการขนแรงงานชาวเวียด นามในครั้งนี้ จนกระทั่งทราบว่ามีคนต่างด้าวชาวเวียดนาม ชื่อ Mr.Mai Van อายุ 34 ปี เป็นเอเย่นในการติดต่อคนขับรถยนต์ตู้ให้ไปตระเวนรับแรงงานชาวเวียดนามตามสถานที่นัดหมาย และให้พามาส่งที่ชายแดนจังหวัดหนองคาย เพื่อลักลอบเดินทางกลับ สปป.ลาว ตามช่องทางธรรมชาติ จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานส่ง พงส.สภ.เมืองหนองคาย เพื่อขออนุมัติหมายจับ ต่อมาศาลจังหวัดหนองคายได้อนุมัติหมายจับ Mr.Mai Van
ตามหมายจับที่ จ.1/2564 ลง 5 ม.ค.2564 ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นให้ความช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้รอดพ้นจากการถูกจับกุม” และ “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ต่อมา ตม.จ.หนองคาย ได้ทำการสืบสวนติด ตามตัว จนกระทั่งทราบว่ามากบดานที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จึงได้เข้าทำการแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นช่วยซ่อนเร้นช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และ เป็นผู้ใช้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกจากพื้นที่ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พรก.การบริหารราชการฉุกเฉิน” ควบคุมตัวตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขอเรียนให้ท่านทราบว่า เรามีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขันและจับกุมปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหา นคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบ พระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน