มุกดาหาร – คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนวิทยาศาตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เดินทางมาร่วมกับบรรดาครูตัวแทนทางโรงเรียน ตัวแทนนักเรียน ตัวแทนผู้ปกครองและชาวบ้านรวมจำนวน 50 คน ร่วมยื่นหนังสื่อคัดค้านในการขอประทานบัตรเมืองแร่ที่อยู่พื้นที่ใกล้โรงเรียนได้รับผลกระทบจากเสียงระเบิดหินดัง เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษต่อเด็กนักเรียนครูและชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ตั้งแต่ปี 58
นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยคณะ เดินทางลงพื้นที่ ณ วัดป่าถ้ำตาดา บ้านคำฮี ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อมารับหนังสือคัดค้านการขอประทานบัตรเหมืองแร่ อยู่ที่บ้านหนองหอย ตำบลบางทรายใหญ่ บ้านคำฮี ต.โพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหารโดยหลังได้รับการร้องเรียนจึงเดินทางลงพื้นที่ขึ้นไปบนวัดป่าถ้ำตาดา บ้านคำฮี ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนางสาวชัชรดา พลหนองหลวง ตำแหน่งประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองพร้อมคณะกรรมการโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มุกดาหาร ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร เดินทางมาร่วมกับชาวบ้านและบรรดาผู้ปกครองท้องถิ่นหนองหอย ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร บ้านคำฮี ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร รอยื่นหนังสื่อคัดค้านในการขอประทานบัตรเหมืองแร่ดังกล่าว
โดยหลังได้รับหนังสือนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ได้ตรวจสอบ ตามหนังสือสำนัก งานอุตสาหกรรมจังหวัดมุกดาหาร ที่ มห 0033(4)/1017 ลว 22 ธันวาคม 2563 เรื่องขอความอนุเคราะห์ปิดประกาศขอเรียนเชิญเข้าแสดงความคิดเห็น การขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ หินอุตสาหกรรมชนิดหินทราย เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง คำขอประทานบัตรที่ 2/2558 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 58 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 11 ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
ด้านเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย กล่าวว่า ขอแสดงความไม่เห็นด้วยในการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด โยธินขนส่ง โดยมีเหตุผลว่า โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นภายในการพระราชทานอนุญาตของสมเด็จพระเจาน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัติยราชนารี จึงไม่บังควรที่จะให้มีการกระทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในพื้นที่ที่ใกล้บริเวณโรงเรียน อันจะส่งผลต่อปัญหาของสิ่งแวด ล้อมที่จะตามมา ซึ่งพื้นที่ของประทานบัตรอยู่ห่างจากโรงเรียน2 ก.ม.ขนาดมองด้วยตาป่าวก็เห็น และโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย เป็นโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนในลักษณะโรงเรียนประจำ ที่นักเรียนพักนอนอยู่ภายในโรงเรียนตลอด 24 ชั่วโมง และรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี่จากพื้นที่ 7 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี, จ.อำนาจเจริญ, จ.ยโสธร, จ.ร้อยเอ็ด, จ.กาฬสินธุ์, จ.นาครพนม, และ จ.มุกดาหาร โดยเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวนทั้งสิ้น 825 คน บุคลากรครูจำนวน 125 คน บุคลากรอื่น ๆ จำนวน 55 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,000 คน และนักเรียนบางคนที่มีปัญหาสุขภาพที่ไม่สามารถทนต่อเสียงดัง และการสั่นสะเทือนในระว่างการเรียนการสอนและอาจจะส่งผลต่อสุขภาพของนัก เรียนในระยะยาวได้
จากเหตุผลประเด็นดังกล่าว คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยมุกดาหาร มีความคิดเห็นตรงกันตามกลุ่มของราษฎรและชุมชนที่มีการคัดค้านการอนุญาตทำเหมืองแร่ของ ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าว ซึ่งการที่ทางโรงเรียนมีการคัดค้านการทำเหมืองแร่มีกลุ่มชายประมาณ 3-4 คน เข้ามาภายในโรงเรียนก่อกวนถ่ายรูปเจ้าหน้าที่และถ่ายรถยนต์เหมือนข่มคูคุกคาม
นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์หลังได้รับหนังสือก่อนร่วมตรวจสอบรอบพื้นที่โดยรวมได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมจริง แปลกใจมีการคัดค้านมานานตั้งแต่ ปี58 จนขณะนี้ก็ยังมีการระเบิดหินอย่างต่อเนื้องทั้งที่ที่ผ่านมาพนักงานเข้ามาทำเหมืองพื้นที่ดังกล่าวได้ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีไปแล้วก็ยังไม่หยุด นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ เตรียมหลักฐานการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ จ.มุกดาหารให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสเพื่อหาแนวทางดำเนินการต่อไป.
ภาพ/ข่าว เดวิท โชคชัย รายงาน 092-5259-777