จากเด็กหนุ่ม ที่ผ่านอาชีพมาหลากหลาย สุดท้ายลงตัวที่การทำอาหาร เพราะรักการประกอบอาหาร รักการเลือกวัสดุที่ดี และรักที่จะเห็นความอร่อยที่ผ่านจานที่ตนเองปรุง เมื่ออายุ 19 ปี นายพิจักษณ์ นิลสุทธิ์ หรือเจมส์ จึงเลือกเดินตามทางที่ตนถนัด เปิดร้านเป็นของตนเองใช้ชื่อว่า OHO BERGER เพราะเน้นเมนูเบอร์เกอร์ที่หลากหลาย รวมถึงสเต็ก โดยเฉพาะเสต๊กเนื้อวากิล และอาหารยุโรปทั้งจานหลักและอาหารทานเล่น แต่ในช่วงการระบาดของโควิด 19 ทำให้เชฟเจมส์ ต้องปรับกลยุทธ์ให้ทันกับสถานการณ์ และตอบโจทย์ลูกค้าให้ทานได้อย่างหลากหลาย เริ่มจากใช้บริการแอพพิเคชั่นต่างๆ รวมถึงส่งอาหารเองให้กับลูกค้า
ปัจจุบันด้วยวัยเพียง 25 ปี เชฟเจมส์และ OHO BERGER ต้องเจอกับพิษโควิดรอบสอง จากประสบการณ์ในรอบแรกนั้นสอนให้รู้ว่าต้องยืนให้ได้ด้วยลำแข้งของตนเอง จึงศึกษาและเห็นว่าปัจจุบันการสั่งอาหารผ่านแอพพิเคชั่นกำลังเป็นการบริการที่ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้าที่ไม่อยากออกมาทานอาหารนอกบ้าน จึงได้สร้างแอพพิเคชั่นขึ้น ในนาม OHO BERGER พร้อมเมนู EXTRA ที่เพิ่มอาหารไทย เข้ามาอีกกว่า 400 เมนู เน้นที่อาหารจานเดียวเพื่อตอบโจทย์วัยทำงาน เช่นข้าวกระเพราเนื้อออสเตรเลีย ข้าวไก่กรอบ ข้าวผัด ราดหน้า โดยในแอพพิเคชั่น จะแบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน เช่น เมนูเส้น เมนูข้าวราด เมนูกับข้าว เมนูพิซซ่า เมนูเสต็ก และยังมีเมนูมังสวิรัติเพื่อรองรับสายบุญอีกด้วย ส่วนเมนูเด็ดที่ยอดสั่งจำนวนมากคือ ขนมจีนผัดซีอิ๊ว ที่ใช้เส้นขนมจีนผัดแทนเส้นก๋วยเตี๋ยว นุ่มลิ้น และรสชาติลงตัวเข้ากันได้อย่างดี
ด้วยความชอบทำอาหารเชฟเจมส์จึงไม่ยอมแพ้ อีกทั้งเห็นว่าในสุโขทัยยังไม่มีการบริการแอพพิเคชั่นเฉพาะของร้าน น่าจะเป็นที่สนใจของประชาชน โดยราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท จนถึงหลักพัน สำหรับการส่งอาหารเดลิเวอร์รี่นั้น ทางร้านได้ชวนคนที่สนใจมาร่วมงานโดยมีไรเดอร์และรถจักรยานยนต์พร้อมส่งถึง 5 คัน ในระยะทาง 8 กิโลเมตร โดยจะตัดแบ่งให้ไรเดอร์เที่ยวละ 20 บาท ซึ่งก็จะเป็นการสร้างงานร่วมกันในช่วงพิษโควิดอีกด้วย อีกทั้งทางร้านยังมีโปรโมชั่นตลอดทั้งเดือนให้ลูกค้าติดตาม พร้อมคูปองส่วนลดที่แจกให้เป็นสิทธิพิเศษ ซึ่งสามารถโหลดแอพพิเคชั่น OHO BERGER ได้แล้วทาง Play Storeตั้งแต่วันนี้
พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย