จากกรณี ที่สองวัยรุ่นถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จำนวน 4 ราย บุกเข้าจับกุมตัวขณะกำลังร่วมกันต้มน้ำกระท่อมภายในบ้านพักไม่มีเลขที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกข่มขู่ เรียกเอาทรัพย์สิน เป็นเงินสดจำนวน 8,000-9,000 บาท และแหวนทองคำ 1 วง เพื่อแลกกับอิสระภาพ แต่สุดท้ายก็พามาส่งเจ้าหน้าที่ ตร. เพื่อลงบันทึกการจับกุมที่ สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 26 มกราคม 2564 พ.ต.อ.สันติ ชูเชิด ผกก.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศักดิ์ธนา ธนเสฎฐ์โภค์ รอง.ผกก.สภ.นาจอมเทียน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาเบาะแส หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวผู้กระทำผิดได้สองรายคือ นายภูมินทร์ พนมวงศ์เกษม อายุ 34 ปี และ น.ส.ฤทัยรัตน์ สุขสำราญ อายุ 31 ปี ส่วนอีกหนึ่งรายทราบชื่อว่านายโจ้ ไม่ทราบนามสกุล ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว ทั้งนี้จากการสอบสวนทั้งสองรายให้การยอมรับสารภาพ โดยต่อมามีผู้เสียหายคือ นายนพดล แซ่ตั๊น และนายอธิบดี เพิ่มพูล ได้เดินทางมาชี้ตัวยืนยันผู้ก่อเหตุ พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ ดังกล่าว
โดยนายนพดล ให้การว่าก่อนเกิดเหตุมีชาย 3 คน หญิง 1 คน โดยในจำนวนนี้ ทราบว่าเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต.นาจอมเทียน คนเข้ามาที่เกิดเหตุ จากนั้น น.ส.ฤทัยรัตน์ ทำหน้าที่เข้ามาเจรจา พร้อมแจ้งว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย แต่สามารถไกล่เกลี่ย และเคลียร์คดีให้เบาลงได้ แต่ต้องใช้เงินในการดำเนินการ แต่สุดท้ายหลังจ่ายเงินไปแล้วกลับถูกนำตัวส่งดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่าครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 5 (ใบกระท่อม) จึงได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ยอมเสียเงินไปแล้วแต่กลับถูกดำเนินคดี และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ภายหลังทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ ตร. จับกุมผู้ก่อเหตุได้ก็รู้สึกโล่งใจเพราะก่อนหน้านี้มีความหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าบ้าน
ด้าน พ.ต.อ.สันติ ชูเชิด ผกก.สภ.นาจอมเทียน ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้เกี่ยวข้องกับทาง สภ.นาจอมเทียน แต่อย่างไร และก็ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจด้วย แต่ไปหลอกผู้เสียหายให้เข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ ซึ่งหลังทราบเรื่องจึงได้นำกำลังชุดสืบสวน ไปเชิญตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวน จนทราบว่าหนึ่งในนั้นเคยเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจมาก่อน จึงใช้ความสนิทสนมและคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาขอให้ช่วยทำบันทึกจับกุมให้กระทั่งเป็นข่าวขึ้นมา ซึ่งจะได้ขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
ทั้งนี้อยากประชาสัมพันธ์ ถึงภาคประชาชนว่า หากพบบุคคลที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ซึ่งแท้จริงแล้วในพื้นที่ สภ.นาจอมเทียนไม่มี รวมไปถึงแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที รวมทั้งยังอยากฝากถึงกลุ่มที่ยังมีพฤติกรรมก่อเหตุเช่นนี้ ให้ละเลิกเสีย เพราะหากพบเจอหรือมีผู้เสียหายมาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการ ตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก