ข่าวใหม่อัพเดท » กระบวนการ การสรรหาคณะกรรมการ กสทช.

กระบวนการ การสรรหาคณะกรรมการ กสทช.

2 กุมภาพันธ์ 2021
0

มีแหล่งข่าวระดับสูง แจ้งว่าการร้องเรียนต่างๆ ต่อกระบวนการสรรหาคณะกรรมการ กสทช ต้องการเพียงเพื่อให้การสรรหาคณะกรรมการ กสทช ชุดใหม่หยุดชะงักลง และเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่เท่านั้น เพื่อให้กลุ่มและพวกพ้องของตนที่ผิดหวัง ได้กลับเข้าสู่กระบวนการสรรหาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ได้มีการวิ่งเต้นเพื่อให้การสรรหาสะดุดลงมาแล้วเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ภายใต้การบริหารรัฐบาลทหารและอำนาจพิเศษที่มีมาตรา 44 ที่สำคัญกลุ่มผู้วิ่งเต้นยังคงเป็นบุคคลเดิมๆทั้ง 2 ครั้ง โดยวางแผนเป็นกลุ่มแบ่งผลประโยชน์กันชัดเจน ว่าใครจะได้ตำแหน่งอะไรหากวิ่งเต้นสำเร็จ โดยมีความเชื่อมโยงกับคนใกล้ตัวผู้มีอำนาจเป็นผู้ประสาน ซึ่งเป็นการขัดเจตนารมณ์ของ พรบ กสทช ที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช สามารถอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 1 วาระเท่านั้น เพื่อไม่ให้นโยบายสำคัญของประเทศถูกผูกขาดอยู่ภายใต้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดๆ

การแย่งชิงผลประโยชน์และปัญหาในการสรรหากรรมการ กสทช นั้นเป็นที่รับรู้กันในวงกว้าง พรบ กสทช ฉบับปัจจุบันก็ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงถูกร่างไว้อย่างรัดกุม ให้กรรมการสรรหามาจากผู้แทนขององค์กรหลักของประเทศ ซึ่งเป็นเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยดำเนินอยู่ได้ เช่น ศาลฎีกา ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามและป้องกันการทุจริตแห่งชาติ สำนัก งานผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย โดยที่ขั้นตอนการเลือกผู้แทนก็มีความเข้มงวด เช่น การเลือกผู้แทนของศาลฎีกาในที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา ซึ่งยากต่อการวิ่งเต้นกำหนดคน หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองในการสรรหาและรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเป็นกรรมการ กสทช เป็นต้น

นอกจากการกำหนดคณะกรรมการสรรหาที่มีคุณสมบัติสูงแล้ว พรบ กสทช ฉบับปัจจุบัน ก็ยังกำหนดขั้นตอนไว้อย่างรอบคอบ เช่น ระยะเวลาที่ชัดเจนในแต่ละขั้นตอน หรือการให้กระบวน การสรรหาดำเนินคู่ขนานไปกับการร้องเรียน ไม่ว่าจะมีการร้องเรียนใดๆ เพื่อมิให้การสรรหาคณะกรรมการ กสทช หยุดชะงักลง โดย กำหนดหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย ซึ่งไม่ได้เป็นความบังเอิญ แต่หากเป็นเจตนารมณ์ของผู้ร่างกฎหมาย ที่รู้ทันและเจตนาสร้างเกราะป้องกันให้กับกระบวนการสรรหากรรมการ กสทช จากกลไกแห่งผลประโยชน์และอำนาจของอุตสาหกรรมนี้

หากการสรรหาคณะกรรมการ กสทช มีปัญหา การแก้ไขปัญหาย่อมต้องย้อนไปถึง พรบ กสทช ฉบับปัจจุบัน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาคณะกรรมการ กสทช ด้วย ดังนั้นหากผู้มีอำนาจต้องการเร่งผลักดัน พรบ กสทช ฉบับใหม่ที่อยู่ในขั้นตอนของวุฒิสภา เพื่อเป็นการล้มกระบวนการสรรหาในครั้งนี้ และเร่งกระบวนการสรรหาใหม่ให้เร็วขึ้น สังคมจึงควรตั้งคำถามว่า พรบ กสทช ฉบับใหม่ที่เร่งผลักดันอย่างรีบร้อนนี้ได้มีการปรับปรุงประเด็นที่อ้างว่าเป็นปัญหาในขณะนี้แล้วหรือไม่ หากยังไม่มีการแก้ไขปัญหาที่ผู้ร้องเรียนกล่าวอ้างถึง การเร่งผลักดัน พรบ กสทช ฉบับใหม่ ก็จะเป็นเพียงกลไกทางการเมือง เพื่อใช้เอื้อประโยชน์และแต่งตั้งพวกพ้องของตนเท่านั้น โดยละเลยปัญหาของประเทศและประชาชนอย่างสิ้นเชิง

หากผู้มีอำนาจมิได้มีเจตนาในการเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ก็แสดงว่าถูกคนใกล้ชิดหลอกใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องและสร้างปัญหาให้กับประเทศ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบที่ผู้นำต้องแก้ไขอยู่ดีโดยไม่มีข้ออ้างใดๆ


error: Content is protected !!