สืบสวนบช.น. รวบ “กลุ่มเพชรบูรณ์” ลักลอบลำเลียงยาบ้าจากทางภาคอีสาน มาส่งให้กับลูกค้าภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ยึดได้ 2 ล้านเม็ด
วันที่ 2 ก.พ.64 เวลา 10.30 น. ณ ลานแถลงข่าว ชั้น1 อาคาร บช.น. : พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร, พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.2 บก.สส. บช.น. ร่วมแถลงข่าวผลกุมการจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2,000,000 เม็ด
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร, พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม, พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน, พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย, พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ, พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. และพล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดผลการปฏิบัติดังนี้
จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมาจนกระทั่งทราบว่ามีกลุ่มเพชรบูรณ์ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคอีสาน มาส่งให้กับลูกค้าภาคกลางและกรุงเทพมหานคร โดยใช้เส้นทางจังหวัดหนองคาย-ขอนแก่น-ชัยภูมิ-เพชรบูรณ์-สระบุรี ลงสู่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 30 ม.ค.64 ได้พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว และทำการติดตาม
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 ม.ค.64 สามารถจับกุมตัวนายธานินทร์ฯ พร้อมกับพวกรวม 3 คน ได้บริเวณแยกคลองชล ใกล้เทศบาลตำบลห้วยป่าหวาย ถนน 3034 ตำบลห้วยป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี, หน้าบ้านเลขที่ 71 ม.1 ต.ห้วยป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี, ปั้มเชลล์ (บจก.กิตติชัย เทรดดิ้ง เลขที่ 690/93 ถ.พิชัยรณรงค์สงคราม ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ต่อเนื่องมาที่ บ้านเลขที่ 52/22 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางดังนี้ คือ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 2,000,000 เม็ด, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 100,000 เม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระ บอก, รถยนต์ โตโยต้า วีโก้, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, รถยนต์ ยี่ห้อ BMW สีดำ, รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีดำ, รถยนต์ โตโยต้า วีโก้ สีขาว และสมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 2 เล่ม
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” เมื่อทำการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ทำมาแล้วหลายครั้งและยังมีผู้ต้องหาหลบหนีระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุม 1 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่
Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน