ตม.จ.สุรินทร์ ใช้เครื่อง Celebrite ขยายผล รวบขบวนการขนแรงงานเถื่อน แบบขุดรากถอนโคนรายใหญ่ภาคอีสาน หวั่นแพร่เชื้อเข้าพื้นที่ชั้นใน
วันที่ 4 ก.พ.64 เวลา 11.30 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาทร กทม.: พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร,พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จ.สุรินทร์ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา จากการขยายผลขุดรากถอนโคนขบวนการขนแรงงานเถื่อนเจ้าใหญ่ภาคอีสาน หวั่นแพร่เชื้อเข้าพื้นที่ชั้นใน
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จ.สุรินทร์ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จับกุมตัว นายธวัชชัยฯ พร้อมด้วยของกลาง เป็นรถตู้หมายเลขทะเบียนอุบลราชธานี ขณะกำลังขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ซึ่งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 13 คน ไปส่งยังสถานที่ต่างๆ โดยกล่าวหานายธวัชชัยฯ ว่า “รู้ว่าเป็นบุคคลต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือโดยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม,ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ,ประกอบการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาต และปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถโดยไม่ได้รับอนุญาต” และจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา โดยสารมาในรถอีก 13 คนโดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าว เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” แล้วนั้น
ต่อมา ตม.จ.สุรินทร์ สืบสวนขยายผลหาผู้กระทำผิดในการขนแรงงานชาวกัมพูชาในครั้งนี้เพิ่มเติมโดยนำชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานโทรศัพท์มือถือ (Celebrite) เพื่อดึงข้อมูลโทรศัพท์ของผู้ต้องหา จนสามารถได้มาซึ่งหลักฐานทางการเงิน หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ รวมถึงคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายธวัชชัยฯ กับผู้ติดต่อว่าจ้างให้ไปรับบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอีกทั้งได้ข้อมูลเส้นทางการโอนเงินระหว่างผู้ต้องหากับตัวการ ไปจนถึงข้อมูลการติดต่อประสานงานหลักฐานการเช่ารีสอร์ท การชี้ภาพถ่ายยืนยันภาพ และที่เกิดเหตุ คำรับสารภาพของผู้ต้องหา
จนกระทั่งทราบถึงตัวการ และผู้ร่วมขบวนการขนคนต่างด้าว ทราบชื่อต่อมาคือนางฉลอมฯ หรือ เจ๊บุ้งกี๋ อายุ 58 ปี ซึ่งนายทุนรับจ้างขนคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยตั้ง หจก.คำภูษาขนส่ง จำกัด บังหน้า เบื้องหลังรับติดต่อขนคนต่างด้าวจากประเทศกัมพูชาเพื่อไปส่งยังพื้นที่จังหวัดชั้นใน และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขยายผลจนทราบถึงผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ น.ส.จรัมพรฯ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นนายจ้างของนายธวัชชัยฯ และ นางมาลัยฯ อายุ 66 ปี ซึ่งเจ้าของรถยนต์ตู้ทะเบียนอุบลราชธานี ที่จัดเตรียมไว้ให้นายธวัชชัยฯ ขนคนต่างด้าวเข้ามาโดยสะดวกและไม่เป็นที่สังเกตของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.สุรินทร์ จึงรวบรวมหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ทั้ง 3 คนตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ที่ จ.128/2563,จ.129/2563 และ จ.130/2563
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.สุรินทร์ ได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่า บุคคลตามหมายทั้ง 3 คน ได้หนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เตรียมหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยมีนายหน้าฝั่งกัมพูชา รอให้ความช่วยเหลือในการหลบหนี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าจับกุม บุคคลตามหมายจับทั้ง 3 ได้บริเวณใกล้กับช่องทางธรรมชาติ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จึงนำตัวส่ง พงส.สภ.กาบเชิง ภ.จ.สุรินทร์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ปรีชาฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขันและจับกุมปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน