เมื่อวันที่ 10 ก.พ.64 ภายใต้การสั่งการของ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 /มทภ.4 , ผอ.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน., นายอำเภอธารโต จ.ยะลา, ผบ.ฉก.ยะลา ให้คณะเจ้าหน้าที่ แผนกภัยความมั่นคงฯกปก.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน.ประสานงาน ฉก.ยะลา นำโดย พันเอก อัฑฒเศรษฐ์ เต็มมีศรี รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา พ.ต.ท.กรณ์ ไชยเสือ ผบ.ฉก.ตชด.44 จนท.ตร.สภ.แม่หวาด นำโดย พ.ต.ท.นธชิต สุพัฒนานรากุล, กก.สส.1 บก.สส.จชต., อส.อ.ธารโต จ.ยะลา, จนท.ขกท.พล.ร.15, จนท.บก.ควบคุม 4, จนท.นิคมสร้างตนเองธารโต, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.3 (ลำพะยา-บันนังสตา-ฮาลา), จนท.ศปป.ที่ 4 (ภาคใต้) และ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.แม่หวาดฯ พร้อม ชรบ., อรบ.ม.7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา จำนวน 160 นาย ภายหลังจากได้รับรายงานว่า มีกลุ่มบุคคล ขึ้นไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจำนวนหลายแปลง ติดกับชายไทย-มาเลเซีย ระหว่างหลักเขตหลายเลขที่ 48-49 ขอให้ไปตรวจสอบจับกุม เจ้าหน้าที่จึงประชุมวางแผน ร่วมกันออกปิดล้อม พิสูจน์ทราบ พื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ถาวร พื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำเพื่อกิจการนิคม กำลังถูกลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ท้องที่ บ้านคอกช้าง ม.7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา
คณะเจ้าหน้าที่เดินเท้าจากจุดจอดรถขึ้นไปบนภูเขาประมาณ 3 กม.ถึงเขตแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระหว่างใกล้หลักเขตแดนที่ 48-49 ตรวจพบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์กำลังถูกทำลายใหม่และเก่าจำนวนหลายแปลงมีการตัดโค่นต้นไม้มีค่าจำนวนมาก คณะเจ้าหน้าที่ตรวจพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายแล้วจำนวน 2 แปลง ดังนี้
แปลงที่ 1 ที่ความสูงจากรระดับน้ำทะเลปานกลาง ๘๗๘ เมตร ตรวจพบพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์กำลังถูกลักลอบทำลายมาแล้วประมาณ 3 เดือน แล้วมีการลักลอบแผ้วถางป่าใหม่จนถึงปัจจุบัน ต้นไม้มีค่ายืนต้นขนาดกลาง-ขนาดเล็ก ถูดตัดด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ต้นไม้มีค่ายืนต้นขนาดเล็ก ไม้พื้นล่าง วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า ตรวจวัดพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายได้จำนวน 5 ไร่ ยึดถือครอบครองเพื่อทำการเกษตร
ตรวจสอบพบมีที่พัก หลังคามุงสังกระสี ฝากันไม้ไผ่ จำนวน 1 หลัง ลักษณะคนเพิ่งออกไปใหม่ จึงทำการตรวจสอบจุดลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ตรวจพบต้นไม้มีค่าหวงห้ามขนาดต่างๆถูกตัดโค่นล้มคาตอ จำนวนมากได้ทำการตรวจชนิดไม้และตรวจวัด จำนวน 33 ต้น ตรวจยึดเป็นของกลาง ดังนี้ 1.ไม้ยางนา จำนวน 2 ต้น 2.ไม้สยา จำนวน 13 ต้น 3.ไม้กาลอ จำนวน 10 ต้น 4.ไม้เปรียง จำนวน 2 ต้น 5.ไม้ก่อ จำนวน 1 ต้น 6.ไม้มังคะ จำนวน 1 ต้น 7.ไม้ขนุนปาน จำนวน 2ต้น 8.ไม้ฝาด จำนวน 1ต้นและ 9..ไม้ตีนเป็ด จำนวน 1 ต้น
ส่วนแปลงที่ 2 ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 739 เมตร ตรวจพบพื้นที่ป่าไม้ถูกลักลอบทำลายมาแล้ว 3 เดือน แล้วมีการลักลอบแผ้วถางตลอดเวลา ต้นไม้มีค่ายืนต้นขนาดเล็ก ถูกตัดด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ และไม้ขนาดเล็ก ไม้พื้นล่าง วัชพืช ถูกตัดฟันด้วยมีดพร้า ตรวจวัดพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายได้จำนวน 1 ไร่ 1 งาน ยึดถือครอบครองเพื่อทำการเกษตรปลูกต้นที่เรียนขนาดเล็ก จนท.ไม่ได้ตรวจวัดไม้ขนาดเล็กแต่อย่างใด
คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการร่วมกันตรวจยึด เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อ นิวเวสน์ จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ ซึ่งและ ตรวจยึดเลื่อยโค้ง จำนวน 1 ปื้น ซุกซ่อนอยู่ใกล้พื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย ไม้ท่อนถูกตัดล้มคาตอ ยังทิ้งอยู่ที่เกิดเหตุ ขณะตรวจสอบ ไม่พบผู้หนึ่งผู้ใด ในพื้นที่ป่าถูกทำลาย คาดว่าเพิ่งหลบหนีไป
พงส.สภ.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เก็บวัตถุพยานและสิ่งของกลางอื่นๆ โดยกล่าวหาว่า กลุ่มบุคคลที่ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ลักลอบแปรรูปไม้ กระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 และ พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 เหตุเกิดที่ พื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ถาวร พื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำเพื่อกิจการนิคม ท้องที่ บ้านคอกช้าง ม.7 ต.แม่หวาด อ.ธารโต ระหว่างแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย หลักเขตที่ 48-49 เทือกเขาสันกาลาคีรี เป็นพื้นที่ต้นน้ำ คลองคอกช้าง แม่น้ำปัตตานี เหนือทะเลสาบเขื่อนบางลาง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงมอบหมายให้จนท.นิคมสร้างตนเองเบตง และ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยล.3 (ลำพะยา-บันนังสตา-ฮาลา) จัดทำบันทึกรายละเอียดรายละเอียด นำเรื่องร้องทุกข์ต่อ พงส.สภ.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา เพื่อดำเนิน การตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูล : สยามรัฐ