โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการฯ ที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทาน พิจารณาวางโครงการชลประทานในลุ่มน้ำเลย ด้วยการพิจารณาสร้างอ่างเก็บน้ำในลำน้ำลาย สำหรับเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อให้ราษฎรในลุ่มน้ำเลย ได้ใช้ทำการเพาะปลูกทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง อีกทั้งยังใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปีด้วย
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า “โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเลย สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อธิบดีกรมชลประทานพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชลประทานเข้าเฝ้าฯ และทรงมีพระราชดำริให้พิจารณาวางโครงการชลประทานลุ่มน้ำเลย เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรในลุ่มน้ำเลยมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคตลอดปี ทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลาย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเลย จำเป็นต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) เพราะพื้นที่อ่างเก็บน้ำอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูห้วยหมาก ป่าภูทอก และป่าภูบ่อบิด ในส่วนของป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม (โซน C) เกิน 50 ไร่ แต่ไม่เกิน 500 ไร่ เพื่อเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้วนำเข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ พิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (คชก.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อรายงาน และกรมป่าไม้ (คณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ) ประกอบการพิจารณาอนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้างตามขั้นตอนต่อไป”
รองอธิบดีกรมชลประทาน ยังระบุอีกว่า “จากการศึกษาพบว่า ความเหมาะสมเบื้องต้น โครง การจะตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 บ้านไร่ทาม ตำบลนาอาน อำเภอเมือง จังหวัดเลย ประกอบไปด้วยอาคารหัวงาน อาคารประกอบทางระบายน้ำล้น และอาคารระบายน้ำลงลำน้ำเดิม (River Outlet) และอาคารท่อส่งน้ำ (Irrigation Outlet) ขบวนการตั้งแต่ทำการสำรวจและจ่ายค่าทดแทนที่ดินและทรัพย์สิน เตรียมงานเพื่อก่อสร้าง งานเขื่อนดินและอาคารประกอบ ไปจนถึงระบบการส่งน้ำ ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี ซึ่งมีการวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์แล้วว่าให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน”
“สำหรับพื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 16,609.54 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่รับประโยชน์ 13,249 ไร่ พื้นที่หัวงานโครงการ 64.41 ไร่ พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 2,985 ไร่ ท่อส่งน้ำ 298.14 ไร่ และถนนทางเข้าหัวงาน 9.99 ไร่ เป็นพื้นที่ชลประทาน 13,249 ไร่ ใช้ระบบส่งน้ำแบบท่อและคลองส่งน้ำรูปตัวยู ครอบคลุม 2 ตำบลในเขตอำเภอเมือง จ.เลย ได้แก่ ตำบลนาอาน และตำบลชัยพฤกษ์”
“เรามีเป้าหมายเพื่อจะสร้างอ่างเก็บน้ำให้กับประชาชน ซึ่งประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ ไม่มีแหล่งน้ำไว้เพาะปลูก ไม่มีแหล่งน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภคตลอดจนสัตว์เลี้ยงในฤดูแล้ง รวมทั้งเป็นน้ำต้นทุน สำหรับผลิตน้ำประปาของเมืองเลย และจะสามารถบรรเทาความเสียหายเนื่องจากอุทกภัยได้ โดยโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำลายจะช่วยสนับสนุนการเพาะปลูกพืชเกษตรและเพิ่มพูนผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต”
ด้าน นายไพเราะ ชุมพล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านไร่ทาม ตำบลนาอาน อำเภอเมือง จังหวัดเลย ระบุว่า “ในส่วนของชาวบ้านบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการย้ายออกจากพื้นที่เดิมซึ่งเคยอยู่อาศัย เพราะยังไม่มีพื้นที่สำรองไว้รองรับ อีกทั้งยังกังวลว่าเงินที่ได้จากการชดเชยจากภาครัฐไม่เพียงพอต่อการไปเริ่มต้นอาชีพใหม่ แต่ก็ไม่ได้คัดค้านโครงการ เนื่องจากกรมชลประทานได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเข้าไปจับจองพื้นที่ทำกินเป็นกลุ่มแรก หลังจากโครงการสำเร็จแล้ว ทำให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของชาวบ้านในการที่จะสร้างอาชีพใหม่ๆ อาทิ การทำประมง การเลี้ยงปลากระชัง การทำร้านอาหาร หรืออาชีพที่รองรับการท่องเที่ยว เป็นสิ่งทดแทนอาชีพเกษตรกรที่ผลผลิตในแต่ละปีไม่มีความแน่นอน”
สำหรับอ่างเก็บน้ำน้ำลาย แห่งนี้ ได้ผ่านการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นแล้ว โดยได้จัดปัจฉิมนิเทศปิดโครงการ โดยได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล องค์กรภาคประชาชน ผู้นำชุมชน ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากโครงการฯ และสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมทั้งได้นำเสนอและรับฟังผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ศึกษาโครงการฯ และทุกภาคส่วน ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปประมวลผลพัฒนาโครงการฯ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน