ข่าวใหม่อัพเดท » DSI บุกค้นโกดังเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

DSI บุกค้นโกดังเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

17 กุมภาพันธ์ 2021
0

DSI บุกค้นโกดังเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 16.30 น. พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจเอก อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้ พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา และเจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปลิง และ สภ.นครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกันตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 2 จุด ได้แก่ โกดังให้เช่าเก็บสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร เลขที่ 9/110 ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ และโกดังไม่ทราบเลขที่ ถ.โกษีย์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บและจำหน่ายสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าที่จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊กให้กับบุคคลทั่วไป

ผลการตรวจค้นพบสินค้าจำพวกกระเป๋าถือ, กระเป๋าสตางค์, แว่นตา, นาฬิกา และ ผ้าพันคอ ซึ่งปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ Fendi, Gucci, Chanel, Louis Vuitton, Rolex, YSL, Christian Dior, Coach,MCM, CELINE และ Gentle Monster ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจนับของกลาง จำนวนกว่า 2 หมื่นชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายหรือมูลค่าตามราคาท้องตลาดกว่า 100 ล้านบาท

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องมาจากกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้เฝ้าสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคล ลักลอบจำหน่ายสินค้าในลักษณะเป็นผู้ค้าส่งรายใหญ่ และได้ลักลอบนำสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้ามาจากต่างประเทศผ่านด่านชายแดนทางบก และนำมาเก็บไว้ในโกดังเป้าหมาย เพื่อรอจำหน่ายให้แก่ผู้ค้าปลีก ย่านสำเพ็ง และลูกค้ารายย่อย โดยมีพฤติการณ์การกระทำความผิด เป็นแหล่งค้าปลีกผ่านทางเฟซบุ๊ก

โดยเสนอจำหน่ายสินค้าปลอมคุณภาพเกรด AAA และไม่ได้คุณภาพ เพื่อหลอกลวงขายให้กับผู้สนใจ อย่างมีวิธีการที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายทำลายเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้อนุมัติให้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ จึงได้ทำการวางแผนทำการตรวจค้น จับกุมดังกล่าว

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่ประเทศไทย ถูกสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative-USTR) จัดอันดับประเมินสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศคู่ค้าที่สำคัญของสหรัฐฯ โดยจัดประเทศไทยไว้ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List-WL) ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา กองคดีทรัพย์สินทางปัญญาจึงได้มีนโยบายในเรื่องการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตพื้นที่สีแดง และเขตพื้นที่ที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด ต่อไป


สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!