ในที่สุดการประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.64) ในวาระเพื่อทราบ (หากไม่มีข้อทักท้วงให้ถือเป็นเรื่องที่ ครม.เห็นชอบ/อนุมัติ) เรื่อง “ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion)” ปรากฏว่า ครม.ไม่มีข้อทักท้วงข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงถือว่า ครม. “เห็นชอบหรืออนุมัติ” ตามที่ ป.ป.ช.เสนอแนะ ซึ่งไม่เอาเทอร์มินัล 2 ตัดแปะหรือส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะให้ ทอท.ดำเนินการดังนี้
- เร่งขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออก ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 รวมทั้งขยายด้านทิศตะวันตกด้วย เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 75 ล้านคนต่อปี
- ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ที่ให้ขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ตามด้วยก่อสร้างเทอร์มินัล 2 ด้านทิศใต้ใกล้ถนนบางนา-ตราด เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรกก่อน แล้วจึงนำส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือมาพิจารณาว่ายังคงมีความจำเป็นอีกหรือไม่
แต่คล้อยหลังการประชุม ครม.ไม่นาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้สัมภาษณ์ว่า “ได้รายงานในที่ประชุม ครม.วันนี้ว่า จะทำส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกไปพร้อมๆ กับส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ…” และ “เราพร้อมรับฟังทุกความเห็น แต่มองว่าความเห็นของ ป.ป.ช.ก็ไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่กระทรวงฯ จะดำเนินการ เพราะเรายังยืนยันที่จะขยายด้านทิศเหนือ…”
อ่านคำสัมภาษณ์แล้ว ช่วยพิจารณาดูว่าขัดแย้งกับข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.หรือไม่?
ที่สำคัญ ครม.มีมติเห็นชอบหรืออนุมัติตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ซึ่งไม่เอาเทอร์มินัล 2 ตัดแปะ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีใครกล้าเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางฝ่าฝืนข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ที่ไม่เอาเทอร์มินัล 2 ตัดแปะ บ้าง!
ข้อสงสัยและข้อสังเกตดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นข้อกังขาที่ผมและประชาชนทุกคนชอบที่จะต้องขอคำชี้แจงให้สิ้นสงสัยจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นเท่านั้นเอง
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์