ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตฯพลิกคำพิพากษาศาลชั้นต้นสั่งไต่สวนมูลฟ้องคดีวัชระฟ้องสรศักดิ์ฯ ม.137,157 กรณีสาวไส้งบ ICT อาคารรัฐสภาแห่งใหม่โป่งพอง 8 พันล.
วันที่ 1 เม.ย.64 : นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ เวลา 10.00 น.ศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ระหว่างนายวัชระ เพชรทอง โจทก์ นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำเลย เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม โดยโจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 และอ่านคำพิพากษาในวันนี้ว่า ที่ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วด่วนมีคำพิพากษายกฟ้องทุกข้อหาโดยไม่ไต่สวนมูลฟ้อง ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบไม่เห็นพ้องด้วยบางส่วน อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน พิพากษาแก้เป็นว่าให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137,157 แล้วมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่ตามรูปคดีต่อไป ศาลนัดพร้อมในวันที่ 5 พฤษภาคม 2564
นายวัชระฯ ได้กล่าวขอบคุณศาลที่มีความยุติธรรม ส่วนคดีที่เป็นโจทก์ฟ้องนายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นจำเลยในประเด็นเดียวกัน ซึ่งเดิมศาลอุทธรณ์นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ แต่เลื่อนนัดไปอ่านคำพิพากษาในวันพุธที่ 5 พฤษภาคม 2564
คดีนี้เป็นกรณีที่นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขณะดำรงตำแหน่งอยู่ ไม่ส่งเอกสารพยานหลักฐานให้ศาลอาญาตามที่โจทก์ร้องขอให้ศาลอาญามีหมายเรียกพยานเอกสาร ชวเลข ซึ่งนายสรศักดิ์ฯ จำเลย ครอบครองอยู่ จนทำให้ศาลอาญามีคำสั่งประทับฟ้องโจทก์ในคดีที่นายชัชวาล อภิบาลศรี เป็นโจทก์ฟ้องนายวัชระ เพชรทอง เป็นจำเลย โดยมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหายในคดีที่นายชัชวาล อภิบาลศรี ฟ้องโจทก์ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่โจทก์ดำเนินการตรวจสอบโครงการ ICT ของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่โป่งพองจาก 3 พันล้านบาทเป็น 8 พันล้านบาท
นายวัชระฯ ยังขอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความคุ้มครองข้าราชการฝ่ายพัสดุ 18 คนที่คัดค้านไม่เห็นด้วยในการที่สภาฯจะใช้การประมูลแบบวิธีพิเศษในงบ ICT 8 พันล้านบาทด้วย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน